ออกภาคสนามสำรวจการพิบัติของลาดดิน
บริเวณ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ |
|
1. สภาพทั่วไปของ อ.แม่แจ่ม
จ.เชียงใหม่ |
อำเภอแม่แจ่ม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเชียงใหม่
มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,361.151 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ร้อยละ
70 เป็นป่าและภูเขา ร้อยละ 20 เป็นพื้นที่ราบเชิงเขา ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ
10 เป็นพื้นที่ที่เป็นที่ราบ ประกอบด้วย 10 ตำบล 166 หมู่บ้าน
ทิศเหนือ ติดต่อเขต อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทิศใต้ ติดต่อเขต
อำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ทิศตะวันออก ติดต่อเขต
อำเภอสะเมิง อำเภอสันป่าตองและ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
ทิศตะวันตก ติดต่อเขต อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอแม่สะเรียง
จังแม่ฮ่องสอน มีลำน้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหินที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาในเขต
จังหวัดแม่ฮ่องสอน แล้วไหลผ่านอำเภอแม่แจ่มออกสู่แม่น้ำปิงที่
อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ มีเส้นทางคมนาคมติดต่อกับอำเภอข้างเคียงได้
2 เส้นทาง คือ
- ทางหลวงจังหวัด สายแม่แจ่ม-ฮอด เชื่อมกับทางสายฮอด-แม่สะเรียง
ระยะทาง45 กิโลเมตร
- ทางหลวงจังหวัดสาย แม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ เชื่อมกับทางหลวงสายจอมทองอินทนนท์
ระยะทาง 22 กิโลเมตร |
|
2. ลักษณะทางธรณีวิทยา |
พื้นที่บริเวณอำเภอแม่แจ่ม
จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพธรณีวิทยาค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
เนื่องจากมีการแทรกดันตัวของหินแกรนิตมาเกี่ยวข้องหลายครั้ง
ทำให้ลักษณะต่าง ๆ ของหินในบริเวณนี้ มีความยุ่งยาก เพราะหินเดิมจะถูกขบวนการเปลี่ยนลักษณะ
(deformation) และการแปรสภาพ (metamorphism) ทำให้เนื้อหินมีการเปลี่ยนแปลงไป
แต่อย่างไรก็ตามพอที่จะสรุปได้ว่า ในบริเวณแผนที่ระวางอำเภอแม่แจ่มนี้
ประกอบด้วยหินแปรเกรดสูง (high grade metamorphic rocks)
ประเภทไนส์ ชนิด Quartzo-feldspathic biotite gneiss และ
หินอ่อน/หินแคลซิลิเกต (Marble/Calc-silicate) และพบว่ามี
หินไมก้าชีสต์ปนอยู่บ้าง ซึ่งหินพวกนี้เป็นหินแปรที่วางตัวอยู่ล่างสุดที่ถูกล้อมรอบด้วยหินแกรนิต
ถัดขึ้นมา คือ หินควอร์ตชีสต์ และ ควอร์ตไซต์ ซึ่งมีการกำหนดให้อายุ
อยู่ในยุคแคมเบรียน ซึ่งหินอายุแคมเบรียน นี้ วางตัวอยู่บนหินแปรเกรดสูง
ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น การกระจายตัวของชั้นหินอยู่ในแนวเกือบเหนือ-ใต้
โดยการวางตัวของชั้นหินจะขนานไปกับแนวขอบเขต (boundary)
ของหิน ถัดขึ้นมาเป็นหินปูนอายุออร์โดวิเชียน ซึ่งเป็นชั้นบาง
(laminated) ถึงเป็นพืดหนา (massive bedded) วางตัวต่อเนื่องไปกับแนวของหินอายุแคมเบรียน
และส่วนบนสุดของหินอายุออร์โดวิเชียนนี้ ถูกปิดทับอยู่ด้วยหินทราย
ของยุคไซลูเรียนถึงคาร์บอนิเฟอรัส เป็นหย่อมๆ หินที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้
รองรับอยู่ด้วยหิน Migmatite ซึ่งมีอายุการเกิดอยู่ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส
ส่วนหินพื้นฐาน (basement) ของหินบริเวณนี้ คือ หินแกรนิต
ซึ่งอยู่ไม่ลึกนัก สำหรับธรณีวิทยาโครงสร้างพบว่าในบริเวณนี้มีการเกิดการคดโค้ง
(folding) 3 ครั้ง คือ ครั้งแรก เป็นพวกชั้นหินคดโค้งตลบกลับ
(overturned fold) ส่วนครั้งที่ 2 เป็นพวกรอยคดโค้งนอนทับ
(recumbent fold) ในขณะที่ครั้งสุดท้ายเป็นพวกชั้นหินคดโค้งเปิด
(open fold) โดยทิศทางของแนวแกนการคดโค้ง (B-axes) มีทิศทางประมาณ
10 องศาเหนือและเอียงเท 80 องศาตะวันออก ซึ่งสังเกตได้ในหินอายุแก่
ส่วนในหินที่อายุอ่อนกว่ามักพบลักษณะของแนวแตก (fracture)
โดยพบว่าส่วนใหญ่เป็นแบบ extension fracture และมีบางส่วนที่เป็น
cross fracture ของ major fold structure
จากการสำรวจภาคสนาม พอจะสรุปได้ว่าสภาพธรณีวิทยาในพื้นที่บริเวณตะวันออกของ
อำเภอแม่แจ่ม (รูปที่ ก-1) ประกอบด้วยหินอายุต่าง ๆ ดังนี้
|
|
ลักษณะทางธรณีวิทยาบริเวณ
อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ |
1. หินที่มีอายุพรีแคมเบรียน
พบว่าสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- พวกที่เป็นหินแปรเกรดสูง
(หน่วยหิน pr) ส่วนใหญ่เป็นหินไนส์ ทั้งที่แสดงและไม่แสดงลักษณะ
ของ blastoporphyritic porphyroblast และการเรียงตัวเป็นชั้นของแร่ไบโอไทต์
ลักษณะเด่นของหินพวกนี้ คือ สามารถเห็นลักษณะของผลึกแร่ฟันม้า
ที่ถูกแรงบีบอัดจนยืดออกในแนวยาว สลับกับแนวของแร่ไบโอไทต์
ที่ต่อกัน ซึ่งแสดงถึงการเรียงตัวของแร่ในหินไนส์ และจะเห็นลักษณะการเรียงตัวของแร่ต่างๆ
คือ แร่ประเภท ควอรตซ์, แร่ฟันม้า และ ไมก้า ซึ่งมีทั้งชนิด
ไบโอไทต์ และ มัสโคไวต์ หินชุดนี้ต่อเนื่องมาจากดอยอินทนนท์
หินที่กล่าวมานี้เชื่อว่าเกิดเนื่องจากหินเดิมในบริเวณดังกล่าวถูกขบวนการเปลี่ยนลักษณะอย่างรุนแรง
จนทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ หรือปรับสภาพใหม่ของเม็ดแร่ต่างๆ
เพื่อให้คงอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมใหม่ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงเหลือร่องรอยของเนื้อหินเดิมอยู่
- พวกที่เป็นหินอ่อน (หน่วยหิน
pr’mb) ส่วนใหญ่เป็นหินอ่อน และหินแคลซิลิเกต ซึ่งหินพวกนี้พบอยู่ใกล้กับลำน้ำแม่แรก
และทางด้านใต้ของน้ำแม่แรก ลักษณะการเกิดเป็นหินชั้นเดิมที่ปิดทับอยู่บน
หินแกรนิตเก่า ลักษณะหินพวกนี้มีสีเทา-เทาเขียว ประกอบด้วยแร่ประเภท
diopside, actinolite, ควอรตซ์ และ แร่ไมก้า เป็นส่วนใหญ่และบางแห่งก็มีการเรียงตัวของแร่ไมก้าและแสดงแนวการคดโค้ง
และพบว่ามีหินประเภทไมก้าชีสต์ บ้างเล็กน้อย อยู่ใกล้ๆ กับหินอ่อน
จากหลักฐานดังกล่าวแสดงว่าหิน ในหน่วยหิน pr’mb นี้ เกิดจากหินเดิมที่เป็นหินแกรนิตที่มีเศษของหินชั้น
เป็น roof pendant และถูกขบวนการเปลี่ยนลักษณะและการแปรสภาพ
ในภายหลัง
สำหรับการแผ่กระจายของหินอายุพรีแคมเบรียน
นั้น พบว่ามีการกระจายตัวอยู่ทางด้านตะวันออกของอำเภอแม่แจ่มนี้เป็นส่วนใหญ่
ที่สำคัญ คือ บริเวณ ลำน้ำแม่แรก บ้านสามสบและบ้านอุมลาน
โดยส่วนล่างสุดวางตัวอยู่บนหินแกรนิตแบบแสดงรอยสัมผัสกับหินอัคนี
2. หินอายุออร์โดวิเชียน (หน่วยหิน o) หินในหน่วยหินนี้ได้แก่พวกหินปูนเนื้อโคลน
(Argillaceous limestone) เป็นส่วนใหญ่ ที่มักมีการเกิดผลึกใหม่
(recrystalline) ของแร่เกิดขึ้นด้วย ลักษณะเด่น คือ มีสีเทาเป็นส่วนใหญ่และบางแห่งก็มีสีเทาจาง
บางแห่งแสดงเป็นชั้นบาง ชัดเจนมาก ในขณะที่ทางตอนใต้ของอำเภอแม่แจ่มมักแสดงลักษณะเป็นพืดหนา
ส่วนที่เป็นหินปูนชั้นบางนั้น พบว่ามีการคดโค้งมาก หินปูนชุดนี้
พบว่าส่วนหนึ่งวางตัวอยู่บนหินอายุแคมเบรียน แบบ sharp contact
และอีกส่วนหนึ่งก็วางตัวอยู่บนหินแกรนิตโดยตรง และตรงบริเวณที่มีรอยสัมผัส
อยู่กับหินแกรนิตนั้น ก็ถูกความร้อนจากหินแกรนิต มาทำให้เกิดการแปรสภาพ
เปลี่ยนเป็นหินแคลซิลิเกต และหินอ่อน ในบางแห่ง
หินอายุออร์โดวิเชียน นี้
พบว่าส่วนใหญ่ มีการแผ่กระจายตัวอยู่ตะวันออกของอำเภอแม่แจ่ม
ใกล้กับลำน้ำแม่แจ่ม
3. หินอายุไซลูเรียนถึงคาร์บอนิเฟอรัส (หน่วยหิน h-s) ในบริเวณอำเภอแม่แจ่ม
พบหินอายุ ไซลูเรียนถึงคาร์บอนิเฟอรัส อยู่ไม่มากนัก ลักษณะเด่น
คือเป็นพวกหิน Arkosic psammite ที่มีเนื้อหินที่มีขนาดของเม็ดแร่ตั้งแต่เนื้อละเอียด
ถึง เนื้อขนาดปานกลาง และแสดงลักษณะการคัดขนาดตะกอนแบบ ปานกลาง
รูปร่างของตะกอนเป็นแบบค่อนข้างเหลี่ยม.สลับอยู่กับหิน Argillaceous
pelite สีเทาเหลืองเมื่อสด ที่มักแสดงเป็นแผ่น (fissility)
ชัดเจน หินชุดพวกนี้วางตัวอยู่บนหินปูนอายุออร์โดวิเชียน
แบบไม่ต่อเนื่อง และบางส่วนก็วางตัวปิดทับอยู่บนหินแกรนิตโดยตรง
โดยมีความสัมพันธ์กันแบบแสดงรอยสัมผัสกับหินอัคนี
หินอายุ ไซลูเรียนถึงคาร์บอนิเฟอรัสนี้พบว่ามีการแผ่กระจายตัวอยู่ตะวันออกของอำเภอแม่แจ่ม
ด้านเหนือใกล้กับลำน้ำแม่แรก |
|
สำหรับหินอัคนีซึ่งเป็นหินแกรนิตทั้งหมดนั้น
แบ่งได้เป็น 2 หน่วยใหญ่ คือ |
1.
หินแกรนิตหน่วยห้วยหลวง (หน่วยหิน G-h) ซึ่งเป็นแกรนิต เนื้อหยาบ
มีการเรียงตัวของผลึกแร่ฟันม้าขนาดปานกลาง ลักษณะเด่นของหินชุดนี้
คือ มีการเรียงตัวของแร่ประกอบหิน เป็นหินที่มีผลึกของแร่
2 ขนาด แร่เม็ดหยาบ ได้แก่ แร่ฟันม้า มีขนาดตั้งแต่ 8.0
- 70.0 ม.ม. แต่โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ประมาณ 40.0 ม.ม. ซึ่งแร่ฟันม้านี้เป็นชนิด
microcline และ microcline-microperthite แสดงการถูกบีบอัดจนมีลักษณะคล้ายรูปตา
(augen or lenticular shape) ส่วนแร่ประกอบหินเป็นผลึกละเอียดนั้น
ประกอบด้วย แร่ฟันม้า plagioclase (An15-An25) ควอรตซ์ ไบโอไทต์
และมี มัสโคไวต์ บ้างเล็กน้อย นอกจากนั้นพบว่า ในแร่ไบโอไทต์
นั้น มักมีแร่ zircon และ apatite เกิดเป็น inclusion อยู่
และตรงบริเวณขอบที่หน่วยหินห้วยหลวงนี้ติดต่อกับหน่วยหินอื่น
มักพบว่ามีการเกิดผลึกใหม่ของแร่ไบโอไทต์ และ แร่ควอรตซ์
เกิดขึ้นเสมอในหน่วยหินห้วยหลวงนี้ มักพบหินแปลกปลอม (xenoliths)
อยู่เป็นจำนวนมากโดยหินแปลกปลอม ที่พบมีทั้งพวก metapsamite,
metapelite, metacarbonate และ metagranodiorite
หน่วยหินห้วยหลวงนี้ พบว่ามีการกระจายตัวอยู่เป็นหย่อม
ๆ ทั้งทางด้านตะวันตก และตะวันออกของอำเภอแม่แจ่ม ไปจนถึงดอยอินทนนท์
พบว่าหน่วยหินห้วยหลวงนี้วางตัวอยู่ใต้หินปูนอายุออร์โดวิเชียน
เป็นส่วนใหญ่ และมีบางส่วนวางตัวอยู่ใต้หินควอร์ตไซต์ อายุแคมเบรียน
โดยทั้งหมดมีความสัมพันธ์กันแบบ แสดงรอยสัมผัสกับหินอัคนี.
2. หินแกรนิตหน่วยแม่อมลาน
(หน่วยหิน G-t) ซึ่งได้แก่หินแกรนิต เนื้อปานกลางถึงเนื้อหยาบ
ไม่พบว่ามีการเรียงตัวของแร่ฟันม้า ลักษณะเด่น คือ มีเนื้อ
2 ขนาด โดยแร่ที่มีขนาดหยาบมีไม่มากนัก โดยแร่ที่มีเนื้อหยาบนี้เป็นแร่ฟันม้า
โดยทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ 6.0-20.0 มม. แต่โดยเฉลี่ยแล้วมีขนาดประมาณ
10.0 มม. โดยมีลักษณะแบบ euhedral-subhedral เป็นส่วนใหญ่
ส่วนแร่ขนาดละเอียดนั้น ประกอบด้วย แร่ควอรตซ์, แร่ฟันม้า,
plagioclase (An10 – An 25) ซึ่งมักแสดง complex zoning,
แร่ไบโอไทต์ ที่มีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่ง
คือ แร่ควอรตซ์ มักมีสีออกไปทางสีน้ำเงิน (blue quartz)
และในตัว แร่ฟันม้าบางแห่งมีแร่ tourmline เกิดแบบ infill
อยู่ ในหน่วยหินแม่อมลานนี้ ไม่พบแปลกปลอมเลย คงพบแต่พวก
quartz xenocrysts เท่านั้น
การกระจายตัวของหน่วยหินแม่อมลานนี้ พบว่ามีการกระจายตัวอยู่บริเวณตะวันออกของอำเภอ
แม่แจ่ม บริเวณดอยอินทนนท์ |
|
3. ความเสียหายที่เกิดขึ้น |
ในเย็นวันที่ 16 กันยายน 2545 ฝนเริ่มตกหนักจากต้นน้ำแม่แรกตั้งแต่เวลา
18.30-23.30 น. หลังจากฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ทำให้ดินบนลาดเขาดูดซึมน้ำจนถึงจุดอิ่มตัวปริมาณน้ำส่วนเกินที่ดินไม่สามารถดูดซับได้จึงไหลลงมาตามลาดเขาพร้อมกับดินที่ดูดซับน้ำจนอิ่มตัวจนขาดแรงยึดเหนี่ยวแล้วไหลหลากลงลำน้ำแม่แรกรวมกับน้ำฝนที่ตกลงมาไหลหลากเข้าสู่บ้านยางหลวง
น้ำเริ่มหลากตอนประมาณเวลา 01.00 น.ของวันที่ 17 กันยายน
2545 ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณต้นน้ำแม่แรกเห็นเหตุการณ์ว่า
น้ำเริ่มหลากจึงขี่มอเตอร์ไซค์มาบอกกำนันที่บ้านยางหลวง
กำนันจึงประกาศเตือนภัยให้ชาวบ้านที่กำลัง หลับอยู่ทราบและให้หลบภัยตามโรงเรียนและพื้นที่สูง
ทำให้สามารถลดความสูญเสียชีวิตได้ โดยสามารถสรุปสภาพความเสียหายได้ดังแสดงในตาราง |
สภาพความเสียหาย
ผู้เสียชีวิต
ผู้สูญหาย
บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง
บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน
ฝายเก็บน้ำ
รวมมูลค่าทั้งสิ้น |
จำนวน
ไม่มี
ไม่มี
12
60+
6 ลูก
66 ล้านบาท |
 |
 |
|
4. แนวทางการจัดการในพื้นที่ |
|
 |
ภายหลังจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากและแผ่นดินถล่มได้มีหน่วยงานทั้งของทางราชการและเอกชนเข้าให้ความช่วยเหลือ
เช่น อำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด วัด เหล่ากาชาดจังหวัด
ตชด.กู้ภัย ศูนย์กปร.ภาค ดอยสะเก็ด โดยมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยมีนายอำเภอเป็นผู้สั่งการทั้งหมด และคอยประสานงานในการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ
มีการแจกสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น เช่น อาหาร น้ำดื่ม
ยารักษาโรค หน่วยงานด้านป่าไม้และทหารช่างได้นำเครื่องจักรกลไปให้ความช่วยเหลือ
รื้อถอนซากปรักหักพังที่ขวางทางน้ำออกและแก้ไขปัญหาการคมนาคมให้เข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้โดยเร็ว
พระสงฆ์และสามเณรช่วยทำความสะอาดพื้นที่ที่เกิดเหตุ นอกจากความช่วยเหลือทางด้านอาหาร,
เครื่องอุปโภคและบริโภค, ยารักษาโรคแล้วยังมีการจ้างแรงงานทำความสะอาดพื้นที่วันละ
130 บาท ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ ให้กับคนในพื้นที่อีกด้วย |
การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้เข้าสู่สภาพปกติ |
|
5. แนวทางการป้องกันภัย |
1. วางแผนในการป้องกันภัย ซึ่งเป็นแผนของกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
(กปร.)
2. ติดตั้งหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และมีการประกาศให้มีการอพยพฉุกเฉินเมื่อเกิดภัยให้
ชาวบ้านทราบ
3. การเตรียมการด้านการอพยพโยกย้าย คน สัตว์และสิ่งของขณะเกิดภัย
4. จัดตั้งกรรมการหมู่บ้าน และอาสาสมัครกรมป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
|
|
# ออกภาคสนามสำรวจการพิบัติของลาดดิน บริเวณ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน  |
# การพิบัติบริเวณ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  |